Naza55

NAZA55 เว็บพนันออนไลน์ ให้บริการเดิมพันออนไลน์ทุกปรูปแบบ บริการ 24 ชั่วโมง , สมัครสมาชิกวันนี้ รับโปรสุดพิเศษทันที

AG Asia Gaming

เวลา 24 พฤษภาคม 2021 10:40 am

ป้ายกำกับ:

AG Asia Gaming

AG Asia Gaming คือ เว็บคาสิโนออนไลน์ที่ดีที่สุด ที่เน้นบาคาร่า หรือที่รู้จักในอีกหลายๆชื่อว่า AG Gaming หรือ AG Asia Gaming ซึ่ง AG Asia Gaming ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2012 อีกทั้งยังเป็นคาสิโนที่มีใบอนุญาตถูกต้อง และประกอบกิจการได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะการสร้างประสบการณ์ใหม่ ให้แก่นักเดิมพันที่เข้ามาเล่น AG Asia Gaming ข้อดีของทาง คาสิโน AG Asia Gaming  ที่มีรูปแบบการเล่น บาคาร่าที่หลากหลาย เพื่อเป็นอีกทางเลือก ให้ผู้เล่นได้สนุกกับประสบการณ์ใหม่ๆ ของการเล่นเว็บไซต์ของ AG Asia Gaming  และยังมีบาคาร่าออนไลน์ ที่ไม่ซ้ำใครนั่นเอง นอกจากนี้ ทาง แพลตฟอร์มของ AG Asia Gaming เองยังมี คาสิโนรูปแบบอื่นๆอย่าง รูเล็ต ไฮโล ไพ่เสือมังกร และ ไพ่วัวกระทิง ไว้เป็นทางเลือก ให้สำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบ คาสิโน เหล่านี้อีกด้วย โดยที่AG Asia Gaming ใส่ใจนักพนันเป็นอย่างมาก

เกมที่ได้รับความนิยมของ AG Asia Gaming 

บาคาร่าออนไลน์

กติกาเล่นบาคาร่าออนไลน์ การนับแต้มไพ่การเล่นบาคาร่าออนไลน์ นั้นทำได้ง่ายมาก เพราะการเล่นบาคาร่าออนไลน์ เป็นเกมที่มีพื้นฐาน มาจากไพ่ป๊อกเด้ง จึงเล่นไม่ยาก โดยให้ท่าน ที่กำลังศึกษา กติกาเล่นบาคาร่าออนไลน์ นับจากตัวเลข ที่โชว์อยู่บนหน้าไพ่ ในกติกาเล่นบาคาร่าออนไลน์ ได้ดังนี้

แต้มของเกมไพ่บาคาร่า

ไพ่ที่มีรูปใบหน้า (K, Q, J) และ 10 เท่ากับ 0 ไพ่เอซ (A) เท่ากับ 1 ไพ่ 2 / 3 / 4 / 5 / 6 / 7 / 8 / 9 เท่ากับ จำนวนหน้าไพ่

แต้มของแต่ละฝ่าย คือผลบวกของตัวเลข ตัวสุดท้ายไพ่ทั้งหมดในมือ ดังนั้น  ฝ่ายที่ถือไพ่ 8 กับ 9 ก็จะมีแต้ม 7 ( เพราะ 8+9 = 17) ทั้งนี้เพราะไพ่ 10  แต้ม และ เต๊ะ (K, Q, J, 10) นับค่าเท่ากับศูนย์ และนับเฉพาะตัวเลขหลักสุดท้ายเท่านั้น ดังนั้นไพ่ 10 แต้มจึงมีค่าเท่ากับศูนย์ การนับแต้มจะนับไล่จาก 0 ถึง 9  เสมอ (ไม่เหมือนกับการเล่น แบล็กแจ๊คหรือมาเก๊ายีอิด) และ จะไม่นับแยกออกจากกัน

วิธีการแจกไพ่บาคาร่าออนไลน์

  1. แจกและเปิดไพ่ทีละใบจนครบ

เมื่อเริ่มต้นเกม ดีลเลอร์จะดึงไพ่ออกจากขอนครั้งละ 1 ใบ ผ่านเซ็นเซอร์กล้อง เพื่อแสดงผลไพ่ทีละใบ

  • ใบที่ 1 วางในตำแหน่ง  เพลเยอร์ ช่องที่ 1
  • ใบที่ 2 วางในตำแหน่ง  แบงเกอร์ ช่องที่ 1
  • ใบที่ 3 วางในตำแหน่ง  เพลเยอร์ ช่องที่ 2
  • ใบที่ 4 วางในตำแหน่ง  แบงเกอร์ ช่องที่ 2

เมื่อแจกไพ่ครบ 4 ใบ แล้วมีผลแพ้ชนะเกิดขึ้น เกมจะจบลงทันที แต่ถ้ายังไม่สามารถระบุผลแพ้ชนะได้ จะต้องมีการแจกไพ่ใบที่ 5 และ 6 ซึ่งจะถูกแจกตาม สถานการณ์ ของแต้มที่ปรากฏในเกมนั้นๆ ซึ่งจะกล่าวโดยละเอียดในหัวข้อ กฎ

  1. แจกและวางไพ่ประจำจุดทั้ง 6 ใบก่อนทำการเปิด

เมื่อเริ่มต้นเกมดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ แล้ววางในตำแหน่งจุดมาร์ค ทั้งหมด 6 จุด โดยไพ่ 4 ใบแรกจะวางอยู่ใน

  • ฝั่งผู้เล่น 2 ใบ
  • ฝั่งเจ้ามือ 2 ใบ
  • ไพ่สำหรับจั่ว 2 ใบ

การแจกไพ่ในลักษณะนี้ ผู้เดิมพันจะเห็นตัวเซ็นเซอร์ อยู่บริเวณเหนือตำแหน่ง ที่วางไพ่ ดีลเลอร์จะทำการเปิดไพ่ พร้อมกันทีละ 2 ใบเริ่มจากฝั่งเพลเยอร์ ตามด้วยแบงเกอร์ ถ้ายังไม่สามารถตัดสินผลแพ้ชนะได้ จะต้องมีการจั่วไพ่ใบที่ 5 และใบที่ 6 ซึ่งจะอยู่ในจุดมาร์คที่เตรียมไว้

กรณีการแจกไพ่ 6 ใบ พร้อมกันแบบนี้ ถ้าเกมจบด้วยไพ่เพียงแค่ 4 ใบ ส่วนไพ่ใบที่ 5 และใบที่ 6 ไม่ได้ถูกใช้งานในตาถัดไป ดีลเลอร์จะทำการดึงไพ่ 2 ใบนี้ไปวางในตำแหน่งของ ‘เพลเยอร์’  เพื่อใช้สำหรับการออกผลในรอบถัดไป

ไพ่ 3 กอง

ไพ่ 3 กอง หรือ เกมไพ่ 13 ใบ ชื่อภาษาอังกฤษเรียกว่า 13 Cards ซึ่งเกมไพ่ 3 กองนั้นเป็นหนึ่งในเกมไพ่ ที่คนนิยมเล่นกัน ไม่ว่าจะเล่นในบ่อน หรือเล่นออนไลน์ เพราะนอกเหนือจากเกมไพ่ 3 กอง จะมีวิธีเล่นที่ง่ายและเล่นสนุกแล้วนั้น กติกาและวิธีการเล่น ไพ่ 3 กองนั้นไม่ได้ยุ่งยาก

แม้แต่นักพนันมือใหม่ ก็สามารถเล่นชนะได้

วิธีการแจกไพ่ 3 กอง

โดยปกติแล้ว ไพ่ 1 สำรับ จะมีจำนวนไพ่ 1 ทั้งหมด 52 ใบ ดังนั้นการเล่นไพ่ 3 กอง เราจะใช้ไพ่ทั้งสำรับ เพื่อใช้ในการเล่นไพ่ 3 กอง และจำนวนผู้เล่นสูงสุดคือ 4 คน

  1. ไพ่จะถูกแจกให้คนละ 13 (เกมไพ่ 13 กองปกติ อย่างไรก็ตาม กฏกติกา และ อัตราการจ่ายต่างๆ ของการเล่น เกมไพ่ 13 กอง จะขึ้นอยู่กับ เว็บคาสิโนออนไลน์ ที่ท่านเลือกเล่น)
  2. การจัดไพ่ 13 ใบ หรือ ไพ่ 3 กอง โดยวิธีการจำง่ายๆคือจัดออกเป็น 3 กอง 3-3-5
  • แถวบน 3 ใบ
  • แถวกลาง 5 ใบ
  • แถวล่าง 5 ใบ

แถวล่างสุดคือ กองไพ่ที่มีแต้มมากที่สุด ตามลำดับ ท่านสามารถจัดกองไพ่ตามรูปแบบต่างๆ ได้ดังนี้

  1. ไพ่มังกร

คือ ไพ่ที่เรียงกัน 13 ใบ เรียงกันได้ดังนี้

A, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, J, Q, K

สามารถเป็นได้ทั้งดอกเดียวกันหรือต่างกันก็ได้ ไพ่มังกรถือว่า เป็นไพ่ที่ใหญ่ที่สุดในเกม หากท่านเรียงได้ไพ่มังกร ท่านจะได้ไป 52 แต้มทันที

  1. ไพ่รอยัลฟรัช

คือ ไพ่ที่เรียงกัน 5 ใบ ดอกเดียวกัน (สีเดียวกัน) และต้องเป็นไพ่ 10, J, Q, K, A เท่านั้น

  1. ไพ่โฟร์

คือ ไพ่ที่เรียงกัน 4 ใบ และจะต้องเป็นไพ่ที่มีแต้ม เหมือนกันทั้ง4ใบ (อีกใบจะเป็นอะไรก็ได้)

เช่น 4 ดอกจิก, 4 ข้าวหลามตัด, 4 โพดำ, 4 โพแดง เป็นต้น

  1. ไพ่เห่า หรือ ไพ่ฟลูเฮ้าท์

คือ ไพ่ 2 ชุด ดังนี้ หนึ่งไพ่ที่มีเหมือนกัน 3 ใบ และสอง ไพ่ที่มีแต้มเหมือนกัน 2 ใบ

เช่น Q, Q, Q, ตามด้วย 10 โพดำ, 10 โพดำ

  1. ไพ่สี หรือ ไพ่ฟรัช

คือ ไพ่ที่มีดอกเดียวกัน 5 ใบ หรือมีไพ่สีเดียวกัน 5 ใบนั่นเอง และไม่จำเป็นต้องเป็นไพ่ที่มีแต้มเรียงกัน

เช่น  3 โพแดง, 6 โพแดง, 2 โพแดง, 8 โพแดง, 9 โพแดง

  1. ไพ่เรียง หรือ ไพ่สเตรท

คือ ไพ่ที่แต้มเรียงกันและไม่จำเป็นต้องเป็นดอกเดียวกัน

  1. ไพ่ตอง

คือ ไพ่ที่มีแต้มเหมือนกันทั้ง 3 ใบ

  1. ไพ่ 2 คู่

คือ ไพ่ที่มีแต้มเหมือนกัน 2 ใบ จำนวน 2 ชุด

  1. ไพ่ 1 คู่

คือ ไพ่ที่มีแต้มเหมือนกัน 2 ใบ จำนวน 1 ชุด

  1. ไพ่สูง

คือ ไพ่ที่ไม่สามารถจับคู่ หรือ จัดวางเข้ากองไพ่ใดๆ ได้ ควรจัดวางไว้ในกองแถวบน

Dragon Tiger

ไพ่เสือมังกร หรือ ชื่อสากล คือ มังกรไทเกอร์ (Dragon Tiger) จากเดิมเกม Dragon Tiger ต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศกัมพูชาเป็นที่แรก หลังจากนั้น Dragon Tiger ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และเริ่มแพร่หลายไปในคาสิโนหลายๆประเทศในแถบเอเชีย

การเล่นไพ่เสือมังกร หรือ Dragon Tiger นั้น ไม่ยากอย่างที่คิด เป็นชนิดการเดิมพันที่ง่าย ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลารวดเร็วในการได้เสีย ทำให้ไพ่เสือมังกรเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางภายในเวลาอันสั้น และติดอันดับหนึ่งในเกมการเดิมพันที่มีผู้คนเล่นมากที่สุดในขณะนี้อีกด้วย

วิธีเล่นไพ่เสือมังกร หรือ Dragon Tiger

วิธีการเล่นไพ่เสือมังกร จะมีวิธีเล่นคล้ายกับเกมไพ่บาคาร่า แต่ว่าวิธีเล่นไพ่เสือมังกร จะตัดสินผลแพ้ชนะด้วยไพ่ 1 ใบ ไม่มีการเปิดไพ่ใบที่ 2 หรือ 3 เหมือนบาคาร่า

  1. โดยผู้เล่นต้องเลือกแทงว่าไพ่ฝั่ง เสือ หรือมังกร จะมีแต้มสูงกว่ากัน และรูปแบบการแทงจะมีให้เลือกแค่ 3 รูปแบบ เท่านั้นได้แก่
  • เสือ
  • มังกร
  • เสมอ

2.ดีลเลอร์แจกไพ่ฝั่งละ 1 ใบ

3.เปิดไพ่ และวัดแต้มว่าฝั่งไหนได้แต้มมากกว่า ฝั่งนั้นชนะเดิมพันทันที

รูปแบบการแทงไพ่เสือมังกร

แทงฝั่งมังกร (Dragon)

การแทงฝั่งมังกร หรือ ฝั่งสีแดง คือการที่เราวางเดิมพันว่า แต้มของฝั่งมังกรจะมากกว่าแต้มของฝั่งเสือ ซึ่งผู้เล่นฝั่งมังกรจะได้รับไพ่ และมีโอกาสได้เปิดไพ่ก่อน

อัตราการจ่ายเงินเดิมพันอยู่ที่ 1:1

แทงฝั่งเสือ (Tiger)

แทงฝั่งเสือ หรือ ฝั่งสีน้ำเงิน ก็คือการที่ทายว่าฝั่งเสือ จะมีแต้มมากกว่าฝั่งมังกรนั่นเอง ซึ่งผู้เล่นฝั่งเสือจะได้รับไพ่ทีหลัง ซึ่งทำให้รู้คะแนนทีหลังฝั่งมังกร

อัตราการจ่ายเงินเดิมพันอยู่ที่ 1:1 

แทงเสมอ (Tie)

การแทงรูปแบบนี้ คือการที่เราเลือกเดิมพันว่า แต้มของทั้งสองฝั่งจะมีค่าเท่ากัน ซึ่งโอกาสที่ไพ่ทั้งสองฝั่งจะออกมาเสมอกันนั้นเป็นไปได้ง่ายกว่าเกมไพ่ชนิดอื่นๆ

อัตราจ่ายเงินเดิมพันสูงถึง 1:8 

สมัครสมาชิก เพียงขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

  1. เข้าไป สมัคร ได้ที่หน้าเว็บไซต์ของเรา
  2. จากนั้นให้ท่าน กดที่คำว่า สมัครสมาชิก ได้เลยทันที
  3. กรอกข้อมูล ตามแบบฟอร์มที่เรามีให้ อย่างครบถ้วน
  4. รอ call center ทำรายการไม่เกิน 1 นาที ท่านจะได้รับ user ทันที

เพียงขั้นตอนง่ายๆ แค่นี้ ก็ถือว่าท่าน สมัครสมาชิก เสร็จเรียบร้อยแล้ว และไม่ว่าจะ ฝาก ถอน หรือมีปัญหาใดๆ ท่านสามารถแจ้ง call center ได้ตลอด 24 ชั่วโมง